ทีมชาติไทยชุดใหญ่มีภารกิจสำคัญ 2 รายการที่จะต้องแต่งตัวปรับทีมให้

พร้อมก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้นโดยเป้าหมายสำคัญของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยและแฟนลูกหนังไทยคือการสร้างผลงานให้โชติช่วงชัชวาลเกรียงไกรในเวทีฟุตบอลโลก 2026 และเอเชียน คัพ 2023ซึ่งการลงทุนแบบมหาศาลก่อนหน้านี้ทั้งเรื่องการจัดการด้านต่างๆก็เพื่อต่อยอดให้ทีมชาติไทยประสบความสำเร็จในเวทีระดับที่สูงกว่าอาเซียนแน่นอนว่าเป้าหมายที่ใหญ่กว่าภารกิจที่อยู่ข้างหน้าย่อมไม่ใช่งานง่ายนี่คือไทม์ไลน์ของทีมชาติไทยชุดใหญ่

ที่จะเดินหน้าขึ้นไปปักธงตามเป้าหมายเพียงแต่ว่าลูกหนังซีเกมส์หนนี้ไม่ตรงกับปฏิทินฟีฟ่าเดย์นักเตะที่จะถูกเรียกมาใช้งานอาจจะมีโฉมหน้าที่แตกต่างออกไปจากชุดที่ผ่านมา และ ที่สำคัญช่วงเวลาดังกล่าวตรงกับการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศจึงเป็นไปได้ยากที่จะได้ทีมที่ดีที่สุด ปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่โค้ชและทีมงานจะต้องเดินหน้าทำการบ้านเข้มข้นในเวลาที่มีและบุคคลากรที่มารับใช้ชาติได้ เพื่อเดินทางไปสู่เป้าหมาย ช่วงเวลาการแข่งขันตรงกับลีกที่ยังทำการแข่งขัน โปรแกรมฟุตบอลซีเกมส์ 2023 จะเริ่มแข่งขันก่อนเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.66 ซึ่งพิธีเปิดจะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ค.66 และ พิธีปิดจะมีขึ้น 17 พ.ค.66 ขณะที่ลีกไทยจะทำการแข่งขันทั้งไทยลีก1,2 ไทยลีก 1 นัดที่ 27 วันที่ 22-23 เม.ย.66,นัดที่ 28 วันที่ 29-30 เม.ย.66,นัดที่ 29 วันที่ 6-7 พ.ค.66,นัดที่ 30 วันที่ 12 พ.ค.66 ส่วนไทยลีก 2 นัดที่ 33 วันที่ 22-23 เม.ย.66 นัดที่ 34 วันที่ 30 เม.ย.66

หลังจากนั้นรอบเพลย์ออฟจะมีขึ้นตามมา แม้ว่าจะได้เม็ดเงินจากกระทรวงท่องเที่ยว

และกีฬามาอุดหนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยแต่โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ ไม่ตรงกับปฏิทินฟีฟ่าเดย์ หลายสโมสรจึงเลือกที่จะไม่ปล่อยตามแนวทางนโยบายสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยและบริษัทไทยลีกเน้นการแข่งขันรายการระดับทวีปตามโปรแกรมของ เอเอฟซี มากกว่าซึ่งทีมชาติไทยชุดนี้ถูกตั้งเป้าหมายจะเป็นทีมที่ล่าฝันคว้าตั๋วไปแข่งขัน อลป. 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส

โดยรอบคัดเลือก 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2024 จะมีขึ้นในวันที่ 4-12 ก.ย.66 ซึ่งมองว่ารายการที่จะชี้วัดผลงานคือการแข่งขันระดับทวีปต่อยอดไปสู่ระดับเวทีที่สูงกว่า ทางออกหลังจากนี้นอกจากการเจรจาพูดคุยในการเลือกใช้นักเตะกับสโมสรแล้ว สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงคือเรื่องของการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้หรือครั้งต่อๆไป จำนวนประชากรนักฟุตบอลของไทยมีมากเพียงพอแค่ไหน? จากโครงสร้างระบบลีกที่มองว่าคุณภาพสูงขึ้นมาตรฐานแกร่งสุดกรู่จากชาติในอาเซียน เท่ากับว่าจากนี้ไปลีกไทยสามารถหยิบจับผู้เล่นที่มีในลีกหลายๆระดับมาใช้งานได้เลยถ้าเป็นเวทีระดับอาเซียน และมองกลับกันว่าเมื่อตัวเลือกมากขึ้นทีมชาติก็มีทางเลือกมากขึ้น เพราะฟุตบอลยุคใหม่ทีมชาติน่าจะสบายใจไปหลายเรื่องเพราะสโมสรได้ทำการคัดเลือกนักกีฬาที่ดีเข้าสู่ระบบ

และสร้างพละกำลังให้กับผู้เล่นมาโดยตลอด อาจจะต้องถึงเวลาหยิบจับผู้เล่นเกรดรองลงมาในเรื่องของประสบการณ์ไปใช้งานดูบ้างเพื่อให้คุณภาพนักเตะเหล่านี้เพิ่มขึ้นและจะไม่ต้องเจ็บปวดเมื่อต้องรอแต่นักเตะแกนหลักๆเมื่อถึงทัวร์นาเมนต์สำคัญ หรือแข้งสำคัญได้รับบาดเจ็บ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมทุกวันตรงนี้ vacationdiggs.com